CE Marking

CE Marking
หมวดหมู่ บทความน่ารู้
ราคา 0.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 28 ต.ค. 2560
อัพเดทล่าสุด 28 ต.ค. 2560
จำนวน
ชิ้น
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
Tags : CE Marking

รู้จัก CE Marking: มาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมของ EU Print E-mail
Written by สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงบรัสเซลส์   
Wednesday, 23 January 2008
 

CE Marking หรือการประทับตรา   (ตัวอักษรย่อมาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่า "Conformité Européene"  ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษคือ "European Conformity") เป็นเครื่องหมายแสดงว่าสินค้านั้นมีการออกแบบและการผลิตที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามข้อกำหนดในระเบียบข้อบังคับด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม EU เพื่อให้ผู้บริโภคใน EU มีความมั่นใจถึงความปลอดภัยในการใช้สินค้าและการจัดการตามมาตรการพิทักษ์รักษาและลดผลกระทบที่อาจมีต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อมูลและขั้นตอนในเรื่องมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมยุโรปภายใต้ระบบ New Approach Standardisation เพื่อปรับประสานมาตรฐานสินค้าของประเทศสมาชิก EU ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและเอื้ออำนวยต่อการไหลเวียนของสินค้าอย่างเสรีในตลาดภายใน สามารถดูทางเว็ปไซท์http://www.newapproach.org/  ซึ่งจัดทำขึ้นร่วมกันโดยหน่วยงานด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของ EU ทั้ง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย

  1. CEN - European Committee for Standardization
  2. CENELEC - European Committee for Electrotechnical Standardization 
  3. ETSI - European Telecommunications Standards Institute

การประทับตรา   บนสินค้าอุตสาหกรรมที่วางจำหน่ายใน EU ได้เริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2536 ครอบคลุมผลิตภัณฑ์รวม 22 กลุ่มสินค้า[1] อาทิเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า  ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์  อุปกรณ์ก่อสร้าง หม้อน้ำร้อน  ตู้เย็น/ตู้แช่แข็ง  ลิฟท์  เครื่องจักร  อุปกรณ์การแพทย์  เครื่องชั่ง  อุปกรณ์สื่อสาร  และของเล่น  ทั้งนี้ การผลิตสินค้าดังกล่าวส่งออกไปขายในตลาด EU และ EFTA จะต้องมีตรา   ติดบนผลิตภัณฑ์ จึงสามารถวางจำหน่ายในตลาดดังกล่าวได้

ขั้นตอนขออนุญาตติดตรา CE Marking สามารถดูทางเว็ปไซท์ http://www.ce-marking.org/what-is-ce-marking.html  โดยมีขั้นตอนสำคัญคือ 

  1. ตรวจสอบว่า มีระเบียบข้อบังคับใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเรา
  2. ตรวจสอบว่าสินค้าของเรามีความความสอดคล้องกับข้อกำหนดสำคัญๆ ด้านการออกแบบและการผลิต ตามข้อกำหนดในระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเพียงใด
  3. เลือกขั้นตอน conformity assessment จากทางเลือกต่างๆ (options or modules) :

Module A: internal production control
Module Aa: intervention of a Notified Body
Module B: EC type-examination
Module C: conformity to type
Module D: production quality assurance
Module E: product quality assurance
Module F: product verification
Module G: unit verification
Module H: full quality assurance

ทั้งนี้ ระเบียบข้อบังคับมักใช้ชุดคำถามที่สอบถามเกี่ยวกับคุณลักษณะสินค้า เพื่อจัดประเภทของระดับความเสี่ยง โดยอ้างอิงทางเลือกที่ยอมให้ผู้ผลิตรับรองสินค้าของตนและติดตรา CE marking ได้

  1. สำหรับสินค้าที่มีความเสี่ยงน้อย ทางโรงงานผู้ผลิตสามารถตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของสินค้าตนเองได้ โดยจัดทำใบรับรอง (Declaration of Conformity) และติดตรา     บนสินค้าตน  แต่ในกรณีสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง ระเบียบข้อบังคับจะกำหนดให้มีการตรวจสอบรับรองโดยหน่วยงานอิสระ (Notified Body) ทั้งจากภาครัฐและเอกชนของประเทศสมาชิก EU ประเทศสมาชิก EFTA และประเทศที่มีความตกลง MRA กับ EU ได้แก่ สหรัฐฯ และออสเตรเลีย  ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรปได้ให้การรับรองและประกาศใน Official Journal แล้ว (ข้อมูลในเว็ปไซท์ http://www.ce-marking.org/list-of-notified-bodies.html มีหน่วยงาน Notified Body ราว 1,000 แห่ง) หน่วยงานเหล่านี้จะทำการตรวจสอบสินค้าในห้องปฏิบัติการตามขั้นตอนที่กำหนดในข้อบังคับ และมักให้บริการ เช่น

-         การทดสอบผลิตภัณฑ์

-         การออกใบรับรองผลการตรวจสอบ

-         การประเมินแฟ้มข้อมูลด้านเทคนิค และข้อมูลการออกแบบสินค้า

-         ระบบคุณภาพและการเฝ้าระวังสินค้า

-         การกำหนดมาตรฐาน

  1. หากสินค้าของเราอยู่ในข่ายที่จะต้องตรวจสอบรับรองโดย Notified Body ก็จะมีขั้นตอนที่ต้องเลือกแบบมาตรฐานสินค้า  วิธีการทดสอบ และ Notified Body  หลังจากนั้น ต้องจัดตั้งตัวแทน Authorized Representative ใน EU และจัดทำแฟ้มข้อมูลด้านเทคนิคสำหรับตรวจพิสูจน์ว่าสินค้าของเราผ่านการทดสอบอย่างถูกต้องและสอดคล้องกับข้อกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง 
  2. การจัดทำใบรับรอง Declaration of Conformity ต้องบรรจุข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการตรวจย้อนกลับไปยังโรงงานผู้ผลิต หรือ Authorized Representative ใน EU โดยระบุรายชื่อข้อบังคับและมาตรฐานต่างๆ ที่สินค้าของเรามีความสอดคล้อง  คุณลักษณะสินค้า  ชื่อโรงงานผู้ผลิต ที่อยู่ และลายเซ็นต์ผู้มีอำนาจ
  3. สินค้าบางกลุ่ม เช่น อุปกรณ์การแพทย์ จะต้องมีการจดทะเบียนใน EU ด้วย ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ จะมีใบทะเบียน (Certificate of Registration) กำกับ  มิฉะนั้น จะไม่สามารถวางจำหน่ายในตลาดยุโรปและติดตรา CE marking ได้
  4. นอกจากนั้น ยังมีระเบียบเฉพาะเกี่ยวกับขนาดและตำแหน่งในการติดตรา CE marking บนตัวสินค้า หีบห่อบรรจุภัณฑ์ และเอกสารในการขนส่งสินค้า  รวมทั้งข้อจำกัดเฉพาะในประเด็นเมื่อไรและใครได้รับอนุญาตให้ติดตรา CE marking

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขา1663 ออมทรัพย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนกิ่งแก้ว ออมทรัพย์
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนกิ่งแก้ว ออมทรัพย์

หน้าที่เข้าชม265,373 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด157,936 ครั้ง
เปิดร้าน9 มิ.ย. 2560
ร้านค้าอัพเดท23 ก.ย. 2568

090-1988665
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านร้าน เคเบิ้ลไทร์ แอนด์ หางปลา
ร้าน เคเบิ้ลไทร์ แอนด์ หางปลา
เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอุปกรณ์งานระบบไฟฟ้า บริษัท K.S Terminals Inc. ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1973 ชื่อ บริษัท เดิมคือ Ken Shing industrial เริ่มต้นพี่ชายสามคนเพียงการลงทุน 3000 NTD สตูดิโอ 18 M2 การเริ่มต้นธุรกิจที่ประเทศไต้หวัน.. ปัจจุบันK.S Terminals Inc.ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า terminals , Assembly part,Cable ties. 3C Connector , Automotive Connectors , Green Energy Connector รวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ ระบบเดินสายไฟทั้งหมด ภายใต้ยี่ห้อ "KST" ด้วยกระบวนการออกแบบและ การผลิตที่มีคุณภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับกัน อย่างกว้างขวาง ในประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกา เอเซีย รวมกว่า 97 ประเทศ ผลิตภัณฑ์มากกว่า 18,500 รายการ ด้วยเครื่องจักรมากกว่า 1,200 เครื่อง จึงกล่าว ได้ว่า K.s.terminals Group. เป็นโรงงานผลิต terminals หางปลาย้ำสายไฟ และสายรัด cable tie เคเบิ้ลไทร์ และอุปกรณ์ประกอบสายไฟอื่นๆ ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งในเอเซีย ในปี 2013 กลุ่มลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการ ของลูกค้า K.s.terminals Group. จึงได้เพิ่มฐานการบริการแห่งใหม่ในประเทศไทย จากคุณภาพ การบริการ และการพัฒนาสู่นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตลอด เหล่านี้ล้วนเป็นปรัชญาการดำเนินงานของ K.s.terminals Group. เราใช้เทคโนโลยีที่ ทันสมัยล่าสุดในการฉีดขึ้นรูปเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูง และได้ผลิตภัณฑ์ที่มี คุณภาพ โดยผลิตภัณฑ์ของ K.s.terminals Group.ได้ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน สากลจากสถาบันต่างๆ ได้แก่ UL, CE, CSA, RoHS, ISO9001,QC08000,ISO14001 , ISO/TS16949 ด้วยการดำเนินนโยบายที่จะค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ตลอด จนถึงนโยบายการรักษาสิ่งแวดล้อม เราจึงเชื่อมั่นว่า K.s.terminals Group จะก้าวสู่ ความเป็นผู้นำในการผลิต Cable ties และอุปกรณ์สายไฟได้ในที่สุด K.s.terminals Group มีความยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสำเร็จในธุรกิจร่วมกัน ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถชม เพื่อการบริการลูกค้าที่ครอบคลุมทั่วโลก บริษัท KST มีสำนักใหญ่ใน ไต้หวัน และเปิดสาขาย่อยที่ ประเทศ จีน, อเมริกา และ ไทย, โดยในแต่ละสาขาของกลุ่มบริษัทในเครือ ยินดีให้การบริการอย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
เบอร์โทร : 090-1988665
อีเมล : anuchit617@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม